วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

La Laker


ประวัติ La Laker

ประวัติของเลเกอร์สเริ่มจากทีมดีทรอยต์ เจ็มส์ (Detroit Gems) ซึ่งเริ่มเล่นในปี ค.ศ. 1946 ในลีกเอ็นบีแอล (National Basketball League, NBL) เมื่อเล่นได้ปีเดียวและมีผลงานชนะเพียง 4 เกมแต่แพ้ 40 เกม เจ้าของเดิม ซี. คิง บอริง (C. King Boring) ได้ขายทีมให้กับ เบน เบอร์เกอร์ (Ben Berger) และ มอร์ริส ชาลเฟน (Morris Chalfen) ทั้งคู่ได้ย้ายทีมจากเมืองดีทรอยต์ไปอยู่ที่เมืองมินนิแอโปลิส มลรัฐมินนิโซตา และเนื่องจากที่มลรัฐนี้มีทะเลสาบอยู่มากจึงใช้ชื่อใหม่ว่าเลเกอร์ (มาจากคำว่า lake ซึ่งแปลว่าทะเลสาบ) และยังคงใช้ชื่อนึ้หลังจากที่ทีมย้ายมาเล่นที่เมืองลอสแอนเจลิสก่อนเริ่มฤดูกาลปี ค.ศ. 1960
ก่อนที่จะมีลีกเอ็นบีเอ เลเกอร์สเล่นในลีกเอ็นบีแอล ในปี ค.ศ. 1947 และลีกบีเอเอ (Basketball Association of America, BAA) ในปี ค.ศ. 1948 ซึ่งก็ได้แชมป์ของลีกทั้งสองปี เมื่อปี ค.ศ. 1949 ลีก เอ็นบีแอล และ บีเอเอ ก็รวมกันตั้งเป็นเอ็นบีเอซึ่งเลเกอร์ก็เข้าร่วมเป็นสมาชิก และสามารถคว้าตำแหน่งชนะเลิศได้ในหลายปีแรก ภายใต้การนำของ จอร์จ มิคาน (George Mikan) ผู้เล่นตำแหน่งเซ็นเตอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนั้นซึ่งเลเกอร์ได้มาเสริมทีมจากสิทธิ์การดราฟอันดับแรก หลังจากที่ทีม ดีทรอยต์เจมส์ เดิมได้อันดับรั้งท้ายในเอ็นบีแอล
ทีมเลเกอร์ตกต่ำลงหลังจาก จอร์จ มิคาน เลิกเล่น มีผู้เข้าชมการแข่งขันน้อย ถึงแม้ว่ามีผู้เล่นเก่งอย่าง เอลกิน เบเลอร์ (Elgin Baylor) ก็ตาม ทำให้ทีมตัดสินใจย้ายเมืองเมื่อปี ค.ศ. 1960 ตามรอยทีมเบสบอลที่ชื่อ ดอจเจอร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงหลังจากย้ายไปที่ลอสแอนเจลิส หลังจากย้ายทีมก็ได้ผู้เล่นที่เก่ง เช่น เจอร์รี เวสต์ (Jerry West) จากการดราฟ และซื้อตัว วิลท์ แชมเบอร์เลน (Wilt Chamberlain) มาจากทีมฟิลลาเดลเฟีย เซเว่นตี้ซิกเซอรส์ ก็ยังไม่สามารถเอาชนะทีมบอสตัน เซลติกส์ซึ่งเป็นแชมป์หลายสมัยในขณะนั้นได้จนกระทั่งปี ค.ศ. 1972
ถึงแม้ว่ามี คารีม อับดุล-จับบาร์ (Kareem Abdul-Jabbar) เลเกอร์ไม่สามารถได้แชมป์อีกจนกระทั่งได้เออร์วิน จอห์นสัน (Earvin "Magic" Johnson หรือที่นิยมเรียกว่า แมจิก จอห์นสัน) มาเล่นในปี ค.ศ. 1979 ในปีต่อ ๆ มาได้ เจมส์ เวอร์ที (James Worthy) และ ไบรอน สก็อต (Byron Scott) เลเกอร์ในยุคนี้มีฉายาว่า โชว์ไทม์ (Showtime) และมีชื่อเสียงในเรื่องการบุกทำคะแนน ในยุคนี้เลเกอร์สามารถชนะเลิศได้หลายสมัย ก่อนที่จะค่อย ๆ เสื่อมลง ก่อนที่แมจิกจะประกาศว่าตนเองติดเชื้อเอดส์และเลิกเล่นในปี ค.ศ. 1991 (แมจิกกลับมาเล่นให้ทีมอีกครั้งเมื่อต้นปี ค.ศ. 1996 และเลิกเล่นถาวรหลังหมดฤดูกาลนั้น)

แชค กำลังจับมือกับ จอร์จ ดับเบิลยู. บุชในโอกาลที่เลเกอรส์ได้แชมป์เอ็นบีเอปี 2001
ก่อนฤดูกาล 1996-97 เลเกอร์เซ็นสัญญาเซนเตอร์ร่างยักษ์ แชคิล โอนีล (Shaquille O'Neal ชื่อเล่นว่า แชค) ด้วยค่าตัวที่สูงถึง 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเวลา 7 ปี และเทรดเอาโคบี ไบรอันต์ (Kobe Bryant) จากทีมชาล็อต ฮอร์เนตส์ นักกีฬาที่เพิ่งดราฟมาจากระดับมัธยมปลาย ในช่วงนี้เลเกอร์ยังไม่สามารถพาทีมไปคว้าตำแหน่งชนะเลิศได้ โดยตกรอบเพลย์ออฟรอบหลัง ๆ ติดต่อกันทุกปี เมื่อ ค.ศ. 1999 เลเกอร์ได้ย้ายสนามใหม่จากเกรทเวสเทอร์นฟอรัม (Great Western Forum) ไปที่ สเตเพิลส์เซนเตอร์ (Staples Center) ได้หัวหน้าโค้ชใหม่คือฟิล แจ็คสัน (Phil Jackson) และเปลี่ยนระบบการเล่นใหม่เป็นแบบ ไทรแองเกิลออฟเฟนส์ (triangle offense) เลเกอร์ได้คว้าแชมป์ติดต่อกันสามสมัย ทำให้หัวหน้าโค้ช ฟิล แจ็คสัน มีสถิติชนะเลิศ 10 ครั้ง เป็นอันดับหนึ่งแซงโค้ช เรด เออบาค (Red Auerbach) ของทีมบอสตันเซลติกส์ ที่ได้ 9 ครั้ง (ฟิล แจ็คสัน พาทีมได้แชมป์ในปี 2009) แต่สองปีต่อมามีปัญหาแพ้รอบเพลย์ออฟโดยเฉพาะในฤดูกาล 2003-04 ซึ่งเซ็นสัญญาเอา คาร์ล มาโลน (Karl Malone) และแกรี เพย์ตัน (Gary Payton) นักกีฬาที่อนาคตจะติดหอเกียรติยศแต่ยังไม่เคยได้แชมป์สักครั้งหนึ่ง ประกอบกับความขัดแย้งระหว่าง แชค กับ โคบี ทำให้ต้องเปลี่ยนหัวหน้าโค้ชและเทรดแชคไปทีมไมอามี ฮีท แกรี เพย์ตัน ถูกเทรดไปทีมบอสตัน เซลติกส์ ส่วน คาร์ล มาโลน ประกาศเลิกเล่น
ฤดูกาล 2004-05 เป็นปีที่ตกต่ำของเลเกอร์ มีผู้เล่นระดับซุปเปอร์สตาร์เพียง โคบี ไบรอัน โดยลำพังไม่สามารถพาทีมได้ อีกทั้งมีปัญหาคดีความทางศาลของ โคบี และปัญหาสุขภาพของหัวหน้าโค้ชใหม่ รูดี ทอมยาโนวิช (Rudy Tomjanovich) ทำให้ต้องออกจากการเป็นหัวหน้าโค้ชกลางคัน ส่วนปัจจุบัน ฟิล แจ็คสัน กลับมาเป็นหัวหน้าโค้ชอีกครั้ง แต่จากผลงานปีที่ผ่านมา แค่ได้เข้ารอบเพลย์ออฟก็ถือเป็นความสำเร็จแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น